French Roast
สำหรับผมแล้ว กาแฟคั่วเข้มนี่แหละที่ยากที่สุด!
กาแฟคั่วเข้มที่ดี...ต้องมีความเข้มให้สมชื่อ แต่นอกจากความเข้มที่เพิ่มขึ้นตามระยะเวลาการคั่วแล้ว สิ่งที่จะได้ตามมาก็คือความขม ซึ่งคอกาแฟก็ตั้งข้อแม้ให้เจ้าความขมนี้ว่า ถ้าจะขมก็อย่าขมติดลิ้นจนรู้สึกเหมือนกินถ่านนะ!
ที่ยากสำหรับคนคั่วก็คือ ความแตกต่างระหว่างความเข้มอย่างกาแฟกับความเป็นถ่านนั้น..มันอยู่ห่างกันแค่ไม่เกิน 15 วินาที!!
กาแฟคั่วเข้มที่ดี...ต้องมีกลิ่นหอมฟุ้ง รู้สึกสะอาด มีรสชาติที่หนักแน่นแต่ไม่จืดชืด ความกรุ่นของชอคโกแลตผสมกับความหวานของคาราเมลต้องมีมากพอที่จะสมดุลกับความขมที่เกิดตามธรรมชาติจนสร้างเป็นความประทับใจแบบที่เรียกว่า ขม-หวาน (Bitter-Sweet)
ที่สำคัญที่สุด..ต้องไม่มีกลิ่นน้ำมันกาแฟตุๆที่เดือดจากการคั่วเข้มๆนี้มารบกวนความหอมฟุ้งจรุงใจเด็ดขาด
มันท้าทายก็ตรงที่ จุดต่างระหว่างการได้ผลลัพธ์เป็นความหอมฟุ้งแบบ pungent กับ กลิ่นน้ำมันตุๆนี้มันอยู่ห่างกันแค่ไม่เกิน 15 วินาที เช่นกัน !!
เพื่อให้ได้กาแฟคั่วเข้มแบบ French Roastที่ดีนั้น Roast master จึงต้องควบคุมให้กาแฟร้อนเกือบถึงขีดเพดานสูงสุด และคอยตรวจสอบ สี กลิ่น ลักษณะความมันวาวของเมล็ดในช่วงขณะนั้นอยู่ตลอดเวลาเพื่อประกอบการตัดสินใจเพื่อที่จะหยุด การคั่วในทันทีทันใด...หากตัดสินใจถูกก็จะได้เมล็ดคั่วเข้มที่ดีมาก แต่หากตัดสินใจพลาด..เราก็อาจจะได้เมล็ดกาแฟขมๆมีน้ำมันท่วมตัว ซึ่งทั้งให้กลิ่นที่ไม่สดชื่น ความขมแบบถ่าน และบอดี้ (body) อ่อนระโหย ..หมดคุณค่า หมดราคาไปเลย
หากวันไหนที่ใจไม่นิ่ง สุขภาพจิตไม่สมบูรณ์พอ ..ผมจะไม่กล้าคั่ว French Roast !