COUNTRY 2022 : อนาคต
บ้านผมเป็นครอบครัวใหญ่พี่น้อง 7 คน พ่อแม่รักกันดีมากแต่ก็ไม่ได้ร่ำรวย
ตอนเล็กๆยังทันได้ใช้จานช้อนสังกะสีเคลือบสีเขียวสีครีมนั่งล้อมวงกับพื้นบ้าน ทานมื้อเย็นเสร็จเด็กๆก็ต้องช่วยกันเก็บล้าง ส่วนผมซึ่งเป็นคนเล็กสุดก็มักจะไปกรอกน้ำฝนจากแท้งค์ใส่ขวด
ป.3 หัดซักถุงเท้านักเรียนของตัวเอง
ป.4 เริ่มรับผิดชอบกวาดบ้าน
พอถึง ป.5 ก็ได้เป็นมือวางอันดับหนึ่งกวาดถูพื้นบ้าน
หน้าที่การงานที่เจริญขึ้นโดยลำดับทำให้ได้รับความไว้วางใจส่งไปเรียนหนังสือกรุงเทพฯเป็นเด็กหอตั้งแต่ ม.1
---
ทิศทางการพัฒนาของโลกสัมพันธ์กับการพัฒนาของเมือง การพัฒนาเมืองแยกไม่ออกจากการพัฒนาของคน และพื้นฐานที่สุดในการสร้างคนคือการอบรมสั่งสอนให้รู้จัก‘ความรับผิดชอบ’ หรือ ‘หน้าที่’ ตั้งแต่ยังเด็กจนติดนิสัยถึงตอนโตเป็นผู้ใหญ่
ดังนั้นผมจึงรู้สึกอยู่เสมอว่าความงดงามของทะเล ท้องฟ้าและป่าเขานั้นจำเป็นต้องพึ่งพาการปลูกฝังความรับผิดชอบงานบ้านให้แก่เด็กๆอยู่ไม่น้อย พ่อแม่ไม่จำเป็นต้องคาดหวังหรือเคร่งครัดในการเรียนมากนักแต่ควรกำกับให้มี ‘งานประจำ’ และสอนให้เห็นว่าการคำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวมนั้นสำคัญกว่าประโยชน์ส่วนตัวอย่างไร
ลงมือทำประโยชน์จึงเกิดประโยชน์ จึงเกิดอนาคตที่งดงาม
---
วันนั้นเป็นวันทัศนศึกษา...
ขณะที่พวกเราเด็กมัธยมหนึ่งกำลังตื่นเต้นกับความงดงามและเรื่องราวของวัดโบราณที่บรรยายโดยพี่มัคคุเทศน์ก็มีเสียงของคุณครูผู้ควบคุมทริปพูดลอยขึ้นมาว่า
“ถ้าเจอขยะก็ให้ก้มลงเก็บแล้วเอาไปทิ้งตามถังด้วยนะคะนักเรียน เราช่วยกันรักษาความสะอาดให้สถานที่นะคะ” หนุ่มน้อยทั้งหลายก้มลงเก็บเศษพลาสติกขนมลูกอมตามพื้นใกล้ตัวอย่างว่าง่าย
ผมเห็นคุณป้าแผงขนมยืนยิ้มชอบใจ