โก๋ครบโหล (13) ปีที่ 13 การกลับมาของเต่า
เต่าที่มีความสุขที่สุดในโลก ก็คือเต่าที่พอใจในความเป็นเต่า!
2559 สัญญาณเศรษฐกิจไทยยังไม่มีอะไรดีขึ้น กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ทุกคนระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ร้านโก๋เองก็ต้องประคองตัวฝ่ามรสุมช่วงนี้ไปให้ได้ สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดเวลานี้ก็คือ
1. รักษามาตรฐานของตัวเองเอาไว้ให้ดี
2. ค้นหาโอกาสใหม่ๆหรือช่องว่างทางการตลาดใหม่ๆที่จะเข้ามาเพิ่มยอดหรือชดเชยรายได้ของช่องทางเดิมที่ลดลง
3. หาหนทางเพิ่มประสิทธิผลและประสิทธิภาพของงานส่วนที่เป็นภารกิจหลักขององค์กร
บรรยากาศการค้าโดยรวมเป็นไปอย่างเงียบเหงา เจ้าของกิจการต่างหันหน้าเข้าถามไถ่กันและกันว่ายอดขายของเพื่อนเป็นอย่างไรบ้าง? ผมเห็นร้านรวงทยอยปิดตัว หรือบางทีมีร้านอาหารหรือร้านกาแฟไหนเปิดใหม่ก็มักจะอยู่ได้ไม่กี่เดือนก็ปิดไปเสียอีกแล้ว ถึงร้านโก๋ของเราจะอยู่มาค่อนข้างนานแต่ก็โดนผลกระทบกับเขาไปด้วย ลูกค้าประจำส่วนที่เป็นพนักงานเงินเดือนมาทานที่ร้านไม่บ่อยเหมือนก่อน หรือบางคนก็หายหน้าไปยาวเลย
ส่วน Trend การดื่มกาแฟของผู้บริโภคก็มีการเปลี่ยนไปตามกระแส Third Wave คือการทานกาแฟที่คั่วอ่อนลง และใช้วิธีชงที่หลากหลายมากกว่าที่เคยพึ่งพาเครื่องชงเอสเปรสโซ่เพียงอย่างเดียว เมนูกาแฟดริปและ cold brew กำลังมา ถึงจะยังมีคนถามหาเมนูเหล่านี้ไม่มากนักแต่ผมกับปุ๊กต่างก็รู้สึกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นมากกว่าที่จะเรียกว่าแฟชั่น เราจึงเพิ่มเมนูกาแฟดริปอย่างเป็นทางการ รวมทั้งเพิ่มการนำเสนอเมล็ดพิเศษที่เหมาะกับการชงใน Slow Bar ผมคิดว่าการที่คนหันมาดื่มกาแฟดำและกาแฟดริปมากขึ้นนั้นเป็นโอกาสของเรา เพราะลูกค้าต้องการเฉพาะกาแฟที่มีคุณภาพที่ดีจริงเท่านั้น หากผู้ขายสามารถทำกาแฟออกมาได้ดีอย่างสม่ำเสมอมากพอก็จะได้ Loyalty จากลูกค้ากลุ่มนี้ไปอย่างแน่นอน และยิ่งนับวันเราก็จะเห็นคนทานกาแฟดำเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
นี่คือโอกาสที่เปิดให้แก่กาแฟที่มีคุณภาพ ขึ้นอยู่กับเราแล้วว่าจะทำได้ดีสมใจตลาดหรือเปล่า?
ดังนั้นโมเมนตัมของงานเราจึงยังคงอยู่ที่การสร้างโรงคั่วให้แข็งแกร่ง…เราจะก้าวไปจากจุดแข็งที่เรามีนี่แหละ
‘โรงคั่วกาแฟปรีดา’ เริ่มมีพนักงานประจำการที่เข้ามาช่วยงานผลิตและงานขายจึงช่วยให้ทั้งปุ๊กและผมเบาแรงลง เรามี ‘ดาว’ มาทำในตำแหน่ง Quality Developer หรือนักพัฒนาคุณภาพ ซึ่งดูแลทั้งการควบคุมคุณภาพรวมไปถึงการเก็บเรียบเรียงข้อมูลและความรู้เพื่อหาหนทางทำให้ได้กระบวนการผลิตกาแฟที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ส่วน ‘หญิง’ ตามมาสมทบในฐานะ Sale Support ก่อนที่ ‘นก’ จะมาเป็นผู้จัดการเพื่อดูแลกิจกรรมทั้งสองส่วนให้ดำเนินไปได้อย่างเรียบร้อยโดยที่ ปุ๊กผันตัวเองมาเป็นผู้อำนวยการเพื่อให้มีเวลาวางแผนในภาพรวมซึ่งมีทั้งด้านการกำหนดทิศทางของงานผลิตและงานการตลาด
โครงการใหญ่วิ่งเข้ามาหาพวกเราในบ่ายวันหนึ่ง เมื่อเพื่อนเก่าของผมมาชวนให้ทำกาแฟส่งออกไปขายที่เมืองจีน!
ปกติแล้วผมจะไม่รับจ้างคั่วเพราะเห็นว่ามีหลายที่ทำงานอย่างนี้อยู่แล้ว ทั้งไม่คิดว่าน่าจะเข้ากับเรา แต่สำหรับกรณีนี้เพื่อนเสนอให้เราทำผลิตภัณฑ์ออกมาขายในชื่อแบรนด์ของตัวเองเลยโดยให้บริษัทของเขาติดต่อหาตลาดและดำเนินการส่งออก ผมเห็นความหวังว่าถ้าหากสามารถได้เข้าไปขายตลาดใหญ่อย่างเมืองจีน เราก็จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดเลยทีเดียวทั้งผมก็เห็นดีกับเพื่อนในเรื่องการได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยหาเม็ดเงินเข้าประเทศในยามที่เศรษฐกิจภายในมีแต่ทรงกับทรุดอย่างนี้ เราจะเป็นหนึ่งในคณะผู้กอบกู้เศรษฐกิจไทย
เมื่อทั้งปุ๊กและผมตกลงใจจะมุ่งเข็มไปยังตลาดส่งออกกัน ก็มีเรื่องใหญ่หลายเรื่องที่ต้องตระเตรียม ทั้งการยื่นขอมาตรฐานการผลิต GMP ซึ่งทำให้ต้องมีการปรับปรุงโรงงานให้สอดคล้องตามมาตรฐานอีกครั้งรวมทั้งการเตรียมงานเอกสารอีกมากมาย และที่ใหญ่ไม่แพ้กันก็คืองานออกแบบบรรจุภัณฑ์หลากหลายชนิดเพื่อให้โดนใจตลาดจีน เราต้องทำสินค้าตัวอย่างจำนวนหนึ่งอย่างเร่งด่วนเพื่อให้ทางผู้ส่งออกนำไปใช้เจรจากับพ่อค้าจีนเมืองต่างๆ
เราลงทุนเป็นเดิมพันกันอีกก้อนทั้งๆที่กระแสเงินสดยังค่อนข้างอ่อนไหวเนื่องจากงานก่อสร้างอาคารที่เพิ่งผ่านไปเมื่อปีก่อน เพื่อให้ผ่าน GMP เราต้องทำห้องซักล้าง ห้องแต่งตัว ห้องบรรจุ ให้เป็นสัดส่วน ต้องส่งเมล็ดกาแฟไปตรวจหาค่าทางเคมีที่ห้องแล็บเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาอนุมัติฯลฯ ปุ๊กตัดสินใจสั่งซื้อเครื่องซีลถุงฟอยล์สุญญากาศมาถึงแม้จะยังไม่เริ่มมีออเดอร์เพื่อหาเทคนิคบรรจุที่จะถนอมคุณภาพกาแฟให้ยังดีได้นานที่สุดเพราะกว่าจะถึงมือลูกค้าหรือกว่าจะมีคนเปิดถุงกาแฟของเราก็คงจะผ่านวันคั่วไปแล้วหลายอาทิตย์ หรืออาจจะหลายเดือน? …ทุกกิจกรรมล้วนต้องใช้เงินทั้งนั้น
ด้านการออกแบบ เราใช้ภาษาจีนและภาษาอังกฤษประกอบกันโดยต้องเขียนสิ่งที่เรียกว่า Story ในสีสันลวดลายที่เข้ากันได้กับตลาด เราฝันจะให้สินค้าของเรามีอัตลักษณ์ของ “เมืองลำปาง” จึงใช้ลวดลายไทยและ “ไก่” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองลำปาง ในสีสันที่ค่อนข้างสะดุดตาทั้งแดง เขียว ส้ม โดยทั้งหมดอยู่ภายใต้ Theme ของคำว่า “ความสุข” หรือ 通 (ฝู) ในภาษาจีน ซึ่งเป็นความหมายเดียวกับคำว่า “ปรีดา”…ชื่อโรงคั่วของเราเอง
ยุทธศาสตร์การตลาดของปรีดาก็คือ 'ความเป็นมงคล' (ปรีดา) และ 'อัตลักษณ์เชิงภูมิศาสตร์' หรือ Geographical Identity (เมืองลำปางและประเทศไทย) ...ตัวอย่างสินค้าออกมาสวยงามสมตั้งใจทั้งหีบห่อและคุณภาพกาแฟที่อยู่ข้างใน แต่พ่อค้าจีนถูกใจมันไหม? เราจะทำได้หรือไม่?
เราเร่งงานกันหามรุ่งหามค่ำเพื่อสร้าง Product ตีตราไทยแลนด์ให้ทันงานเจรจาการค้าและออเดอร์ที่อาจจะเกิดเร็วๆนี้จนทั้งผมและปุ๊กต่างก็เครียดจนเกิดอาการนอนไม่หลับ ผมเองเป็นค่อนข้างหนัก แต่ละคืนนอนได้แค่ชั่วโมงสองชั่วโมง นอกนั้นก็ทำได้แค่นอนหลับตาฟังเสียงกลางคืนอยู่อย่างนั้น ไม่ว่าจะเปิดฟังคลิปพระเทศน์หรือสวดมนตร์ทำสมาธิยังไงผมลองมาหมดแต่ก็ไม่ได้ผล… ผมหยุดคิดไม่ได้ ในหัวมีแต่เรื่องแผนงาน เรื่องคน วนกันไปเรื่อยๆ ผ่านไปสี่ห้าเดือนสุขภาพของผมก็เริ่มย่ำแย่ลงในขณะที่ผลเจรจาออเดอร์ก็ยังไม่คืบหน้า มี trader สนใจหลายรายแต่เงื่อนไขใหญ่อยู่ที่โครงสร้างราคาของสินค้า เขาอยากได้ของถูกมากๆเพราะถือว่าสั่งซื้อปริมาณเยอะแต่เราก็คงไม่สามารถทำให้ได้ไม่ว่าออเดอร์จะมากมายแค่ไหน…ถ้าหากสุดท้ายแล้วไม่ได้กำไรก็ไม่รู้จะทำไปทำไม
วันหนึ่ง เราสองคนกลับมานั่งทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา นอกจากมาตรฐาน GMP ที่ได้มากอดไว้แล้ว เราได้อะไรอีกบ้าง? และหนทางที่กำลังมุ่งหน้าเดินไปนี่มันใช่ตัวเราจริงหรือ? มันจะเป็นทางสวรรค์หรือทางลงหุบเหวกันแน่?
ในที่สุดปุ๊กก็เสนอให้ “ยกเลิก” โครงการส่งออกทั้งหมด!
เพราะสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นทั้งหมดนี้ไม่ใช่ “ตัวเรา” ด้วยเหตุผลที่ว่า
1. เราแคร์เรื่องความสดของกาแฟมาตลอดว่าสินค้าที่ส่งไปถึงมือลูกค้าจะต้องมีอายุหลังการคั่วน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่การส่งออกไปต่างประเทศโดยปล่อยให้กาแฟไปอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ที่อาจจะร้อนมาก ซึ่งเร่งการเสื่อมของกาแฟเร็วกว่าปกติ ทั้งยังต้องไปค้างชั้นวางเพื่อรอขายในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ไม่รู้ว่าจะมีลูกค้ามาหยิบไปวันไหน การขายกาแฟแบบส่งออกจึงขัดแย้งกับวิถีเดิมที่เราเป็นอยู่ แล้วหกเดือนที่เราพยายามวิจัยหาเทคนิคบรรจุมายืดอายุกาแฟมาหลายรูปแบบก็ยังไม่เจอว่ามีวิธีไหนที่จะทำให้กาแฟยังคง ‘สด’ อยู่ได้ข้ามปีเลย
เราไม่ควรทำในสิ่งที่ “ย้อนแย้ง” กันเอง
2. การขายแบบมีลูกค้ารายใหญ่เพียงเจ้าเดียวเป็นความเสี่ยง เราอาจตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายได้ เมื่อออเดอร์ใหญ่เราก็ต้องเพิ่มปัจจัยการผลิตถึงอาจต้องกู้หนี้ยืมสิน แต่เมื่อไหร่ที่เขาเกิดเปลี่ยนใจไปสั่งจากที่อื่น เมื่อนั้นเราจะตกที่นั่งลำบากกับภาระที่เพิ่มขึ้นมาทันที วิถีทุนนิยมแบบนี้เสี่ยงมาก เราอาจถึงกับล้มละลายได้เพียงในข้ามวัน
ถ้าตัดสินใจถอยเสียแต่ตอนนี้เราจะยังไม่เจ็บตัวมากนัก แต่หากปล่อยไปจนถึงจุดที่หันหลังกลับไม่ได้แล้ว ชีวิตของเราก็คงจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป….ผมตกลงเห็นด้วยที่จะหยุดโครงการส่งออก
ผมแจ้งการตัดสินใจถอนตัวของเราให้เพื่อนรับทราบ พร้อมทั้งขอบคุณในความเอื้ออาทรที่มีให้กันมาตลอด น้ำใจของเขาในครั้งนั้นผมยังคงซาบซึ้งอยู่เสมอ
นับจากนั้นเราก็กลับมาเป็นตัวเองที่คั่วกาแฟตามออเดอร์ส่งไปตามบ้านและออฟฟิศที่ทำงานของลูกค้า เราทำและบรรจุไปทีละถุงเหมือนที่ผ่านมา
ผมค่อยๆกลับมานอนหลับได้เหมือนเดิม เมื่อความเครียดหายไปความสุขจึงกลับคืนมา เราสองคนพยายามพาชีวิตกลับมาสู่สมดุลอีกครั้ง คนรอบข้างก็พลอยมีความสุขตามไปด้วย ผมเข้าใจดีแล้วว่าความสำเร็จใดๆนั้นมีค่าเทียบกับการได้นอนหลับเต็มอิ่มตลอดทั้งคืนไม่ได้เลย
เมื่อเลิกฝันอยากเป็นกระต่าย เต่าตัวเดิมก็กลับมามีความสุขได้อีกครั้ง!
หันมาดูเครื่องบรรจุถุงแบบสุญญากาศที่เพิ่งซื้อเข้ามา ความที่อยากจะใช้เครื่องจักรให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า ปุ๊กทดลองทำกาแฟสกัดเย็น (Cold Brew: ที่ปกติต้องใช้เวลาแช่ผงกาแฟกับน้ำเย็นกว่า 10 ชั่วโมงขึ้นไป ) โดยใช้เครื่องซีลตัวนี้ เราพบว่าภาวะสุญญากาศช่วยเร่งอัตราการสกัดได้เร็วขึ้นมากโดยที่ไม่ทำให้เกิดกลิ่นแอลกอฮอล์ (เนื่องจากการหมักกับน้ำเป็นระยะเวลานาน) เหมือนที่เกิดกับ Cold Brew โดยทั่วไป ดังนั้นเราจึงได้ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีแคแรกเตอร์เฉพาะที่ให้ความสดใส กลิ่นสะอาด บอดี้นวลละมุนไม่หนักไม่เบาจนเกินไปซึ่งถือว่าแตกต่างจากท้องตลาดอย่างชัดเจน
Vacuum Cold Brew ที่วางขายหน้าร้านโก๋จึงถือเป็น Signature อีกตัวหนึ่งที่ไม่ซ้ำแบบใครมาจนถึงวันนี้
เมื่อเลิกแผนส่งออก เราหันมาเรียนรู้เกี่ยวกับการตลาดยุค 4.0 ควบคู่ไปกับการวางระบบพัฒนาคุณภาพการผลิตให้มีความแม่นยำและเน้นไปที่การสามารถ ‘ตรวจสอบย้อนกลับได้’ (Traceability) โดยกำหนดให้กาแฟทุกถุงต้องสามารถตรวจย้อนถึงหม้อคั่ว (Roasted Batch) , Profile การคั่ว และผลการชิม (Cupping result) เพื่อประโยชน์ของการควบคุมคุณภาพ (Quality Control) และการพัฒนาคุณภาพ (Quality Development) ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นการเพิ่มเนื้องานให้เราแต่ก็เชื่อมั่นว่ามันจะเป็นผลดีให้ทั้งลูกค้าและทีมงานในระยะยาวแน่นอน
การปรับปรุงระบบงานที่มุ่งเน้นคุณภาพกับกระบวนการสื่อสารที่สะท้อนการทำงานจริงของเรา…ทั้งหมดนั้นกลับรวมกันเป็นกระบวนการทางการตลาด ในแบบฉบับของเราเอง
ผมถือว่าปีนี้เป็นปีที่ตนเองทำการตัดสินใจผิดพลาดครั้งใหญ่ ส่งผลให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจขององค์กรไปไม่ใช่น้อย จึงเป็นบทเรียนสำคัญว่า “โอกาส” อาจจะเป็น “วิกฤต” ก็ได้ ถ้าหากเราไม่รู้จักทั้งตัวเองและตัวโอกาสดีพอ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังถือว่าโชคดีที่เรากล้าตัดสินใจ ‘หยุด’ ได้ทันเวลา และยอมถอยกลับมายังจุดที่เคยยืนอีกครั้งก่อนที่จะสูญเสียมากไปกว่านี้ ส่วนน้ำตาที่เสียไปก็ให้มันเป็นเครื่องเตือนใจในบทเรียนชีวิตให้คิดให้ดีก่อนจะทำอะไรอย่างนี้อีก
เราอาจไปได้ไม่ค่อยสวยกับตัวเลข ปีที่ 13 แต่เราก็ผ่านมันมาจนได้ และหวังว่าสิ่งที่เพิ่งผ่านไปจะทำให้เราเข้มแข็งขึ้นเพราะปีหน้าผมกำลังต้องเผชิญกับเรื่องใหญ่ๆอีกหลายอย่าง…
รวมถึงเรื่อง 'การผ่าตัดทีมโก๋' ครั้งใหญ่!
http://www.preda-roastinghouse.com/index.php?mode=preview&lay=show&ac=article&Ntype=20&Id=540053579