โก๋ครบโหล (2) ปีที่สอง รักระหว่างรบ
การตัดสินใจที่ดีที่สุดในชีวิตของผม...ก็คือการขอแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้!
เมื่อผ่านปีที่หนึ่ง ยอดขายของเรามีพัฒนาการดีขึ้นเล็กน้อยโดยปรับขึ้นเป็นประมาณพันกว่าบาท วันไหนขายดีก็ทำยอดได้ถึง 2,000 พอจ่ายเงินเดือนพนักงานทั้ง 3 คน แต่ก็ยังไม่พอสำหรับการจ่ายค่าแรงให้ผู้จัดการอย่างผม หากเราจ่ายเงินเดือนผู้จัดการ กระแสการเงินจะต้องติดลบทันที ที่จริงยอดขายระดับนี้จ้างพนักงานเพียงแค่ 2 คนก็น่าจะพอ แต่เหตุที่เราต้องจ้างพนักงานถึง 3 คนก็เพราะความคาดหวังในการทำตลาดจากงาน Delivery และการหาโอกาสเปิดตัวตามงานแฟร์ในจังหวัด ซึ่งก็ไม่ค่อยจะได้ผลเท่าไหร่
ส่วนการจัดเบรคกาแฟก็เริ่มมีลูกค้าเข้ามาบ้าง ส่วนใหญ่ก็เป็นงานจัดประชุมจังหวัดที่ศาลากลางซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 10 กิโลเมตร
เวลามีงานครั้งหนึ่งได้ยอดประมาณ 30-40 หัว มีกาแฟพร้อมของว่าง รอเสริ์ฟตั้งแต่บ่ายโมงแล้วรอเก็บตอนบ่ายสี่ ราคาขายต่อหัวคือ 35 บาท เราก็จะได้ยอดขายครั้งนั้นประมาณ 1,000-1,200 บาท งานจัดเบรคนี่คิดให้ดีก็อาจไม่ค่อยจะคุ้มเหนื่อย เพราะต้องเตรียมข้าวของอุปกรณ์ไปให้ครบ ทั้งกาแฟ น้ำดื่ม น้ำแข็ง ขนม ชุดถ้วยกาแฟ ทิชชู ช้อนฯลฯ ที่สำคัญ เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติยี่ห้อ Severin ที่ได้จากวีรสุมานี่น้ำหนักมากใช่ย่อย หลายครั้งที่ผมต้องยกอุปกรณ์ทั้งหมดนี้เดินขึ้นบันไดอาคารศาลากลางไปยังห้องประชุมชั้น 4 เพราะลิฟท์ปิดการใช้งานระหว่างพักเที่ยงตามนโยบายประหยัดพลังงานของผู้ว่าฯ แต่อย่างไรก็ตาม เราปฏิเสธไม่ได้ว่างานจัดเบรคนี้ช่วยให้มีกระแสเงินสดเพิ่มขึ้นพอสมควร และยังทำให้ได้ลูกค้าหน้าร้านเพิ่มขึ้นจากการรู้จักของผู้เข้าร่วมการประชุมเหล่านั้น
แม้การงานคืบหน้าอย่างเต่าคลาน แต่ความรักของผมในช่วงนี้กลับก้าวหน้าเร็วยิ่งกว่ากระต่าย!
‘ปุ๊ก’ สาวน้อยผมบ๊อบ คิ้วเข้ม ตาโต ยิ้มกว้างสดใสเป็นประกาย หน้าผากกว้างแต่สวยได้รูปในแบบที่คนชอบล้อกันว่า ‘หัวเหม่ง’ แต่เจ้าตัวกลับไม่รู้สึกอับอายแต่อย่างใด กลับดูจะสนุกเสียด้วยซ้ำ ปุ๊กเป็นรุ่นน้องวิศวะลาดกระบังถัดจากผมไปห้ารุ่น ถึงแม้จะเห็นหน้าค่าตากันพอสมควรในช่วงที่ผมมาขายนมสดที่คณะฯ แต่กว่าจะสนิทสนมกันก็เป็นช่วงใกล้จบปริญญาโทที่พระจอมเกล้าธนบุรี หรือ บางมด พูดง่ายๆว่าเราเรียน ป.ตรี และ ป.โท ที่ลาดกระบัง และบางมดเหมือนกัน ..ผมเรียนพลังงาน ส่วนปุ๊กเรียนเคมี
หลังเรียนจบ เราแยกย้ายกันไปตามแผนชีวิต ผมกลับลำปางเพื่อสร้างร้านโก๋กาแฟ ในขณะที่ปุ๊กได้เป็นวิศวกรที่โรงกลั่นน้ำมันเอสโซที่ศรีราชา แม้จะไกลกันแต่เรายังคงสานสัมพันธ์กันต่อเนื่องด้วยการโทรศัพท์บ้าง แชททางอินเทอร์เน็ตบ้าง หรือเขียนโปสการ์ดหากันก็บ่อยครั้ง เราคุยโทรศัพท์กันแทบทุกเรื่อง เวลาที่ได้คุยกัน เธอจะเปลี่ยนจากคนพูดน้อยไปเป็นสาวคุยเก่ง ส่วนหนุ่มช่างพูดอย่างผมก็กลายเป็นหนุ่มช่างฟัง น่าแปลกที่ถึงจะเป็นอย่างนั้น...ปุ๊กจะจดจำเรื่องราวเล็กๆน้อยๆในชีวิตประจำวันของผมได้อย่างแม่นยำ เป็นครั้งแรกในชีวิตของผมที่รู้สึกว่าตัวเอง “ถูกค้นพบ” เข้าแล้ว เธอรู้สึกว่าผมเป็นคนที่คุยด้วยแล้วสบายใจ ส่วนผมก็รู้สึกว่าเธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่เข้าใจในความเป็นตัวของผม
หลังวันสารภาพรักทางโทรศัพท์เมื่อคืนสงกรานต์ (ครับ..เธอเป็นแฟนคนแรกของผม) ผมก็ตัดสินใจโทรขอแต่งงานกับสาวเจ้าในคืนวันลอยกระทง...ทำนองว่าขอเอาไว้ก่อน ส่วนจะพร้อมเมื่อไหร่ก็ค่อยว่ากันอีกทีเพราะเงื่อนไขการอยู่ร่วมนั้นไม่น่าจะลงตัวได้ง่ายนัก
ครั้งหนึ่ง ผมเล่าให้ฟังเรื่องการคั่วกาแฟที่ได้อ่านมาจากเวบบอร์ดและหนังสือต่างประเทศ ผมบอกว่าถึงจุดหนึ่งแล้วเราจะมีโรงคั่วกาแฟเป็นของตัวเอง (ตอนที่เล่านั้นร้านโก๋ยังเป็นแค่โครงการที่กำลังจะลงมือสร้าง) โดยให้ปุ๊กเป็นเจ้าของ ไม่กี่วันถัดมา ปุ๊กโอนเงินให้ผมสองหมื่นบาทเพื่อเป็นเงินทุนตั้งต้นสำหรับโครงการโรงคั่วกาแฟ ผมใช้มันไปในการสร้างเครื่องคั่วกาแฟต้นแบบโดยดัดแปลงจากเครื่องคั้นน้ำส้มที่เก็บอยู่ในบ้าน เป็นอันว่าร้านโก๋กาแฟ กับเครื่องคั่วกาแฟตัวแรกนั้นสร้างขึ้นพร้อมๆกันเลยทีเดียว
ในที่สุด ปุ๊กตัดสินใจทิ้งงานที่กำลังไปได้ดีเพื่อมาเริ่มต้นชีวิตใหม่กับผมที่ลำปางโดยวางแผนกันคร่าวๆว่าอาจจะมาสมัครสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยราชภัฏ เพราะมีตำแหน่งขาดแคลนที่คณะวิทยาศาสตร์อยู่พอดี
หลังงานแต่งเมื่อกลางปี 2548 ปุ๊กเริ่มชีวิตที่ลำปางด้วยการเป็นอาจารย์สอนเคมี แต่ไม่สนุกนักกับงานสอนหนังสือ เมื่อสอนครบเทอมเธอจึงตัดสินใจลาออกมารับเงินเดือนในฝ่ายสนับสนุนธุรกิจ (Business Support) ซึ่งมีภารกิจช่วยกันวางแผนพัฒนาองค์กรฯ และร่วมกำหนดยุทธศาสตร์ของโก๋กาแฟ ในทางปฏิบัติแล้วก็คือ งานช่วยชง ช่วยเสิร์ฟ ช่วยทำบัญชี และช่วยกันวางระบบที่ผมพยายามทำมานานแล้วแต่ก็ยังไปไม่ถึงไหน จากเงินเดือนวิศวกรโรงกลั่น..ปุ๊กมารับเงินเดือน 7,000 ที่โก๋กาแฟ
เมื่อได้สต๊าฟคนใหม่ โก๋กาแฟก็เหมือนคอมพ์ได้อัพเกรดชิพ ...เราคิดเร็วขึ้น เรามีพลังมากขึ้น
ปุ๊กคือจิ๊กซอว์ตัวสำคัญที่โก๋กาแฟรอมานาน เธอเข้ามาเติมเต็มให้ทั้งร้าน และชีวิตของผม!