My way (3) ผมต้องรู้จักกาแฟทุกตัวไหม?
เขียนไปเขียนมาชักติดลมครับ คราวนี้มีคำถามเกี่ยวกับเรื่องการหาความรู้ด้านกาแฟด้วย ต้องบอกอีกครั้งนะว่าอันนี้เป็นความเห็นของผมที่แลกเปลี่ยนกับพี่น้องที่มาสนทนาด้วยเท่านั้น อาจมีผู้เชี่ยวชาญบางท่านไม่เห็นด้วยก็ได้ ยังไงก็ขออภัยไว้ก่อนและได้โปรดอย่าถือสาหาความกัน
Q : ตลาดกาแฟยุคนี้ต้องรู้กว้างแค่ไหนถึงจะพอครับ ผมจำเป็นต้องรู้จักกาแฟทุกตัวไหม
A : รู้กว้างก็ดี แต่รู้ลึกจำเป็นกว่านะ
บอกตามตรงผมก็ไม่ได้รู้จักกาแฟหลากหลายทั่วโลกอะไรกับเขา ส่วนนี้ผมตามตลาดไม่ค่อยทันหรอกเพราะทุกวันจะเห็นกาแฟชื่อใหม่ๆ หน้าตาคุ้นบ้างก็มี ไม่คุ้นก็เยอะครับ ส่วนใหญ่จะได้รู้ก็ต่อเมื่อมีเพื่อนฝูงส่งมาให้ชิม
แต่สิ่งที่คนทำกาแฟจำเป็นต้องแม่นคือ "แยกออกว่าอย่างไหนที่เรียกว่ากาแฟดีและอย่างไหนถึงจัดว่าเป็นกาแฟไม่ดี"
ความแม่นยำตรงนี้เกิดจากสองส่วนคือ "หลักการ" บวกกับ "ประสบการณ์" ครับ ทุกครั้งที่กาแฟตัวใหม่ผ่านเข้ามาในชีวิตก็ให้นำเอาหลักการที่เรียนรู้และประสบการณ์ที่ผ่านมาเป็นฐานข้อมูลเพื่อใช้วิเคราะห์ทำความเข้าใจมัน พอเราสรุปในใจได้แล้วก็สะสมมันเป็นคลังความรู้ไว้ใช้ประโยชน์ต่อไป
หากจะถามต่อไปอีกว่าสำหรับผมแล้วกาแฟดีเป็นยังไง?
พื้นฐานที่สุดคือปลอดภัยไม่มีสารพิษตกค้างใดๆ ซึ่งกาแฟที่ผ่านกระบวนการที่ถูกต้องมาจะไม่เกิดปัญหาพวกนี้...และมักจะให้กลิ่นรสที่สะอาดเป็นประจักษ์พยานครับ (ไม่ได้แปลว่ามันต้องมีกลิ่น exotic น่าตื่นเต้นนะ แต่หมายถึงเขาจะไม่มีกลิ่นของความไม่ปลอดภัยอย่างเช่น กลิ่นรา รสขมยา หรือขมเคมี หรือความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เป็นต้น)
ต่อเมื่อกาแฟตัวนั้นมีความสะอาดเป็นพื้นฐานแล้ว หากเขามีมิติของความซับซ้อนน่าค้นหาและสร้างความสุขหลังดื่มลงไปได้อย่างดี เราก็จะถือว่าเขามีความดีงามขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง
องค์ความรู้เกี่ยวกับการแยกแยะกาแฟดีและกาแฟเลวออกจากกันนั้นจึงสำคัญและจำเป็นมาก หากคุณเข้าใจมันตั้งแต่ผลที่ปรากฏทางกายภาพ (สี กลิ่น รส) สืบย้อนไปจนถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาพวกนั้น ก็ถือว่าคุณได้ความรู้ที่ควรต้องรู้ในชีวิตการทำกาแฟแล้ว
เป็นใบไม้ในกำมือที่จำเป็นต้องรีบคว้าเอาไว้ แทนที่จะไปเที่ยวรู้จักใบไม้ทั้งป่าที่จำเป็นน้อยกว่าครับ
----
Q : ถ้าไม่มีใบเซอร์ (certificate) การชง การชิม การคั่ว การโปรเสส ฯลฯ เสียให้ครบ เราจะมีคนเชื่อถือไหม?
A : 'ธุรกิจคือการรักษาสัญญา' นั่นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ถ้าคุณทำอะไรได้ตามที่รับปากหรือบอกกับลูกค้าว่าจะทำให้ได้ทำให้ดี พวกเขาจะเชื่อถือคุณแน่นอน
ในทางตรงกันข้าม ถึงแม้คุณมีใบเซอร์เต็มผนังร้านแต่ไม่ได้นำความรู้นั้นไปทำให้กาแฟของคุณมีคุณภาพสมกับที่เรียนมา คนเขาก็จะผิดหวังมากกว่าทั่วไปจนอาจจะพาลเป็นผลลบต่อกิจการและสถาบันที่ไปร่ำเรียนมาก็ได้
เราอาจต้องแยกให้ออกระหว่าง 'ความน่าเชื่อถือ' กับ 'ความเชื่อถือ' นะครับ
อย่างแรกใบเซอร์อาจจะช่วยได้ในตอนต้น แต่อย่างหลังนี่เป็นผลจากการทำงานของเราเองล้วนๆ ซึ่งในมุมมองของผมแล้ว ความเชื่อถือนั้นสำคัญกว่ามากๆ
หากจะเรียนก็อย่าเรียนเพื่อหวังใบเซอร์ ขอให้เรียนเพื่อความรู้และทำให้ใบเซอร์นั้นศักดิ์สิทธิ์ขึ้นด้วยการ 'สร้างผลงานให้ดีที่สุดจากความรู้ที่เรียนมา'
นี่เป็นคำแนะนำจากคนที่ไม่เคยมีใบเซอร์ทางกาแฟอะไรเลยอย่างผม
อย่างไรก็ตาม ยังมีความรู้อีกมากมายที่อยู่นอกห้องเรียนครับ ทุกวันของเราจะมีความหมายมากหากใช้มันในการเรียนรู้ตลอดเวลา
เมื่ออ่านหนังสือดูคลิปเพิ่มเติมเราจะได้รู้ตามเขา เรียกว่าได้ความรู้มือสอง ต่อเมื่อทดลองทำจนเห็นผลประจักษ์ด้วยตนเอง มันจะกลายเป็นความรู้มือหนึ่งที่อยู่ติดแน่นทนนานและสามารถประยุกต์ใช้ได้หลากหลายสถานการณ์
ไม่แน่นะ...เผลอๆวันหนึ่งคุณอาจกลายเป็นคนออกใบเซอร์เสียเองก็ได้
#MyWay3
#ผมต้องรู้จักกาแฟทุกตัวไหม
#PredaWay