ธรรมดาเป็นพิเศษ(9) กาแฟล้นถ้วย
ปัญหาใหญ่ของความไม่คืบหน้าในความรู้ของคนเราก็คือ การคิดว่า “รู้แล้ว” ไม่ต้องเล่าก็ได้
ผมชอบที่จะรับพนักงานที่ยังไม่มีประสบการณ์จากร้านกาแฟอื่นใดมาก่อนมากกว่าการรับคนมีประสบการณ์ตรง เพราะเด็กที่ยังใหม่ต่อกาแฟจะไม่มีอคติมาก่อนโดยยึดถือว่ากาแฟที่ดีต้องเป็นแบบที่เขาเคยผ่านมาเท่านั้น ที่แย่กว่านั้นบางคนยังยืดอกยืดไหล่ข่มคนเก่าที่ทำงานอยู่ในร้านเพราะคิดว่าตัวเองมีศักดิ์ศรีมาจากร้านใหญ่ในเมืองกรุง เพียงเห็นแท่านี้ก็รู้แล้วว่าจะต้องมีปัญหาให้ตามแก้อีกมากแน่ๆ
น่าดีใจอีกอย่างหนึ่งตรงที่น้องๆในร้านที่กลายเป็นทีมเวิร์คในปัจจุบัน ไม่มีใครที่ยืดอกยืดไหล่อย่างนั้นเลย ถึงแม้ว่าต่างก็มีอายุงานกันมาพอสมควรแล้วก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังสนุกสนานกับการเรียนเรื่องใหม่ๆที่จัดหามาให้ ไม่ว่าจะคอร์สชิมกาแฟ การฝึกฝนประสาทสัมผัสรับกลิ่น หรือหน้าที่บางอย่างที่ต้องทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างการชิมตัวอย่างกาแฟของโรงคั่วทุกอาทิตย์ พวกเขาก็ไม่เคยอิดออดบ่นที่ต้องชิมกาแฟที่ดูเหมือนจะเป็นตัวเดิมๆ (แต่ที่จริงแล้วต่างกันในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆอยู่)
อาจจะจริงอยู่อย่างคือ พวกเขาคิดว่าเขายังรู้น้อย!..ดังนั้นหลายสิ่งที่สอนไปจึงดูเหมือนเป็นเรื่องใหม่เสมอ
สิ่งสำคัญคือ เราจะทำอย่างไรให้ความรู้สึกนี้ยังคงติดตัวเขาไปตลอด?
หัวใจของการสร้างความรู้สึกนี้อยู่ที่การทำให้รู้สึกว่ากาแฟนั้นเป็นเรื่องสนุก การแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับกาแฟจึงเป็นความสนุกตามไปด้วย แต่ในทางตรงกันข้าม..เขาต้องเห็นอีกด้วยว่าการอวดความรู้นั้นไม่สนุก และไม่มีสาระ เพราะไม่เกี่ยวกับการทำหน้าที่
เราทุกคนจะยังไปต่อได้หากไม่หยุดที่จะเรียน ด้วยหัวใจที่มองโลกนี้ว่า “ใหม่” อยู่ตลอดเวลา
ความรู้ด้านกาแฟที่ติดตัวเรามานั้นดี แต่การปล่อยให้มันเต็มล้นโดยไม่เททิ้งให้มันพร่องไปบ้าง หรือเปลี่ยนถ้วยกาแฟให้ใหญ่อยู่ตลอดนั้นคงไม่ดีแน่
เพราะไม่มีใครสามารถรินเติมกาแฟลงในถ้วยที่เต็มเปี่ยมจนล้นได้!