ร้านกาแฟไม่ติดแอร์แต่..ไม่ร้อน
ด้วยความที่ร้าน “โก๋กาแฟ” เป็นร้านกาแฟแบบเปิด ไม่มีแอร์สักเครื่อง อาศัย ต้นไม้ กับ ไอน้ำ เป็นตัวช่วยปรับอากาศ ซึ่งก็ได้ผลไม่น้อย
แต่ในบางครั้งเวลาหน้าร้อน แดดจัด ลูกค้าบางคนที่เพิ่งเดินฝ่าเปลวแดดเข้ามาถึงร้านอาจจะรู้สึกว่าเย็นไม่ทันใจ จึงตั้งคำถามแกมเรียกร้องกับเราว่า “เมื่อไหร่จะติดแอร์เสียที?”
ซึ่งแน่นอนครับว่านั่นเป็นคำถามจากคนที่ถูกโฉลกกับห้องแอร์เป็นหลักและก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอันใดที่จะมีคำถามลักษณะนี้กันบ้าง แต่หากให้ผมต้องเลือกระหว่างการเป็นร้านห้องแอร์กับร้านพัดลม
ผมก็ขอเลือกอย่างหลังเช่นเดิม
มาลองดูเหตุผลของการ “ไม่ชอบแอร์” ของเรากันสักหน่อยนะครับ
1. ค่าไฟแพงกระฉูดคือสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นแน่นอน ร้านขนาด 200 ตร.ม. ต้องใช้แอร์ขนาดใหญ่ที่กินไฟอย่างมาก และผลที่ตามมาก็เป็นไปได้สามทางคือ ทางร้านแบกรับต้นทุนหรือลูกค้ารับผลเป็นการปรับขึ้นราคากาแฟและอาหาร จนกระทั่งเกิดผลแบบสุดท้ายคือ รับไม่ไหวกันทั้งคู่ ..การซื้อขายก็จบลงในที่สุด
หากเกิดภาวะการณ์อย่างนั้นขึ้นมาจริงๆ เราคงต้องนั่งตบยุงนับถอยหลังวันปิดกิจการ และในความคิดของผมเอง...เราทั้งหลายควรได้ดื่มกาแฟที่รักทุกวันในราคาที่สมเหตุสมผล มากกว่าการจ่ายแพงเกินงามซะจนอาจจะไม่เหลือเงินเก็บ
2. หากจะกั้นห้องแอร์แค่บางส่วน....ผลกระทบคงเกิดแก่ Staff ซึ่งเดินเข้าเดินออกระหว่างพื้นที่ในและนอกห้อง ต้องเจอกับอากาศร้อนสลับเย็นทั้งวัน คงป่วยแน่ๆ อันนี้เป็นเหตุผ
ลทางด้านสุขภาพ
3. เครื่องปรับอากาศล้วนต้องพ่นอากาศร้อนออกมาทั้งสิ้น ยิ่งแอร์ตัวใหญ่ก็ให้ลมร้อนออกมาอีกไม่ใช่น้อย แล้วลมร้อนที่ออกมานี่ก็คงไม่ไปไหนไกลจากร้านเราหรอกครับ...ซึ่งแน่นอนว่า เราก็ต้องเหนื่อยมากขึ้นในการแก้ปัญหาอากาศร้อน เหมือนยิ่งแก้ก็ยิ่งยุ่งอย่างไรไม่รู้
4. เราไม่ใช่อะไรนอกจากส่วนหนึ่งในโลกใบนี้ เราควรจะหาทางเรียนรู้กันว่าจะอยู่ร่วมกับ “โลก” ได้อย่างไร ถ้าหากเราทำตัวแปลกแยกโดยหลบอยู่แต่ในห้องแอร์ ก็คงไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์แท้จริงได้ และหนทางในการเรียนรู้นั้นก็คงห่างไกลออกไปทุกที
ลองมาดูกันด้วยสายตาที่มองอะไรกันง่ายๆ ไม่ซับซ้อนหรือต้องเข้าใจเทคโนโลยีอันใดมากมาย ภายใต้โจทย์ “ปรับอากาศ” ในวัน “โลกร้อน” อย่างนี้ ผมว่าเรายังพอมีทางเลือกนะครับ
โดยผ่านกระบวนการวิเคราะห์ที่ทันสมัยเสมอ 4 ขั้นตอน คือ
..สิ่งนี้คืออันใด?
..เกิดจากสิ่งใด?
..เป็นไปเพื่อสิ่งใด?
..หนทางคืออันใด?
ผมขอเล่าแนวคิดอย่างสรุปเลยว่า สาเหตุส่วนใหญ่ของความร้อนที่เกิดขึ้นที่ร้านของเรา ได้แก่
ก. แสงแดด
ข. ไอร้อนออกมาจากวัตถุรอบตัวเรา เช่น หลังคา กำแพง ผนัง พื้น
ค. มวลอากาศร้อนจากบริเวณใกล้เคียงไหลมายังร้าน
เป้าหมายของเราคือการทำให้ผู้อาศัยภายในมีความเย็นสบาย โดยการอยู่กับธรรมชาติ ก็ด้วยการแก้สาเหตุเหล่านี้ให้ได้นั่นเอง อย่างเช่น
1. สร้างร่มเงาให้มาก ด้วยอาคารและต้นไม้ใหญ่ และหากจะให้ดีก็ต้องวางทิศอาคารให้อยู่แนวเหนือ-ใต้ เพราะจะช่วยให้ทั้งได้รับลมและกันแดดบ่ายได้ดี
2. ลดอุณหภูมิของวัตถุที่รับแดดและส่งไอร้อนระอุออกมา ด้วยการใช้ "น้ำ" หรือ "ต้นไม้" ช่วยซับความร้อนอย่างเช่น การสเปรย์น้ำบนหลังคา หรือ การใส่สวนแนวตั้งบนกำแพงร้าน ซึ่งทำให้การสเปรย์น้ำเลี้ยงต้นไม้ได้ผลในสามทางคือ ทั้งเลี้ยงต้นไม้ เพิ่มความชื้นและดูดความร้อนจากอากาศบริเวณนั้น
โชคดีอย่างหนึ่งที่วางระบบสเปรย์น้ำบนหลังคา ให้ไหลเวียนกลับมาลงยังบ่อปลา ทำให้ไม่สูญเสียน้ำไปเปล่าๆกัน เพราะอย่างไรก็ต้องเติมน้ำให้บ่อปลาอยู่แล้ว
3. ปรับลดอุณหภูมิมวลอากาศที่เคลื่อนผ่านร้าน ด้วยการใช้ฝอยน้ำดักทิศทางที่ลมเคลื่อนตัว ...ผมติดตั้งแต่หน้าร้านเลยเพราะ ความร้อนจากพื้นถนนหน้าร้านจะต้องเข้าทางนี้ ซึ่งก็ได้ผลมาก ทั้งส่งความรู้สึกแรกสัมผัสของคนที่เดินเข้าร้านให้รับรู้ถึงความเย็นจากละอองน้ำน้อยๆ การที่อากาศร้อนไหลผ่านต้นไม้ที่ชุ่มน้ำ ก็ช่วยลดฤทธิ์เดชของอากาศร้อนเหล่านี้ได้มาก ดังนั้นทางทิศใต้ของร้านเราจึงมีต้นแก้วพิกุล พร้อมละอองน้ำเป็นผู้ช่วยรับศึกกับอากาศร้อนจะเข้าโจมตีจากด้านนี้ในช่วงกลางปี
4. ใช้พัดลมไอน้ำ ช่วยเสริมในทุกจุด..ยังไงพัดลมก็ใช้ไฟน้อยนิดเมื่อเทียบกับแอร์
5. "ดิน" เย็นกว่า "ปูน" ดังนั้นพื้นที่ในสวนที่ลูกค้าชอบไปนั่งกัน เราจึงเลือกใช้อิฐดินก้อนใหญ่ๆ ปูพื้น แทนที่จะเป็นอิฐบล๊อคที่ทำจากปูน แล้วก็ราดน้ำให้ชุ่มในวันอากาศร้อน ....มีลูกค้าบางคนถอดรองเท้าออกระหว่างทานกาแฟ แล้วก็บอกเราว่า เมื่อเท้าสัมผัสพื้นอิฐชื้นๆ แล้วเย็นสบายเป็นที่สุด ผมเลยลองทำบ้างก็พบว่าเย็นสบายจริงๆ
จากวิธีการหลักๆ เหล่านี้ ผมก็พบว่าเราอยู่ได้โดยไม่ต้องเสียเงินค่าไฟฟ้าแพงๆ และธรรมชาติก็ให้คุณค่าในด้านอื่นๆ มากมายกว่านั้น ซึ่งไม่ต้องบรรยายเราทุกคนก็เข้าใจ
ผมมีความสุขเสมอ เมื่อได้เห็น พ่อ แม่ ลูก ชวนกันดูปลาในบ่อรอบๆ ร้าน หรือ คุณพี่บางคนเที่ยวเดินวนเวียนรอบกล้วยไม้ที่ถูกตาถูกใจ และยินดีเอามากๆ เมื่อมีคนถามขอไอเดียเรื่องการติดตั้งระบบสเปรย์น้ำรอบๆ ร้านไปทำบ้านให้เย็นบ้าง
ที่สำคัญ.. เราไม่ต้องเพิ่มภาระให้กับโลกที่เรารักครับ