ช่วงหลังมานี้รู้สึกห่างหายจากการทำคอนเท้นท์เกี่ยวกับการชงเอสเปรสโซไปนาน คอกาแฟสายเข้มและสายนมอย่าเพิ่งน้อยใจไปนะครับ...พี่กี้กลับมาหาแล้ว
เรากลับมาเริ่มต้นที่หลักการพื้นฐานสักหน่อยเพราะเมนูยุคใหม่หลากหลาย เทคนิคการชงก็มากมายตามกันไป แต่ Basic ที่ดีจะพาเราให้ชนะได้ในทุกสนามชง
หลักชงเอสช็อตให้อร่อยเสมอ แบบใช้ได้กับทุกเครื่องชงเลยมีด้วยกัน 4 ข้อ ครับ
1. Good coffee bean : เมล็ดกาแฟคุณภาพดี [50%]
กาแฟสำหรับชงเอสเปรสโซที่ดีในนิยามของยุคสมัยนี้ครอบคลุมในย่านที่ค่อนข้างกว้างเลยทีเดียว ไล่ตั้งแต่ยุคก่อนที่ใช้กาแฟคั่วค่อนข้างเข้มเป็นหลักมาถึงยุคหลังที่คั่วเลยระดับคั่วอ่อนมาไม่มากนักก็เอามาชงเอสเปรสโซกันแล้ว ซึ่งรสชาติก็อาจจะได้ความเปรี้ยวที่มีสีสันฉูดฉาดมากกว่าแต่ก่อนนะครับ อย่างไรก็ตาม espresso bean หรือเมล็ดกาแฟสำหรับชงเอสเปรสโซในความคิดของผมก็ยังควรจะต้องมีส่วนผสมของมิติ body acidity sweetness ที่สมดุลกัน โดยต้องไม่มี "มิติที่ไม่ควรมี" อย่างเช่น น้ำมันท่วมเมล็ดซึ่งมักจะมาพร้อมกับกลิ่นหืนและกลิ่นเหม็นไหม้พวกไม้เผา ยางรถยนต์ เป็นต้น
พูดง่ายๆคือ ไม่ควรจะคั่วเข้มจนเกินไปซึ่งกาแฟก็จะไม่เหลือรสชาติที่น่าพึงใจ และให้กลิ่นไม่อภิรมย์เลย
หลายโรงคั่วใช้เทคนิคเบลนด์กาแฟหลายระดับคั่ว หรือหลายแหล่งเข้าด้วยกันเพื่อสร้างสีสันและความซับซ้อน ทำให้เอสเปรสโซไม่น่าเบื่อ ที่สำคัญ อย่าใช้กาแฟเก่าที่เก็บไว้นานจนไม่เหลือรสชาติใดนอกจากกลิ่นเหม็นหืนมาชงทานเลยนะครับ
2. Right grinding : ระดับบดถูกต้องและสม่ำเสมอ [25%]
โดยปกติแล้วเราจะใช้ระดับบดที่ละเอียดกว่าน้ำตาลทรายขาวแต่ยังไม่ถึงกับนุ่มเป็นผงแป้ง เพราะหากละเอียดเกินไปผงกาแฟจะไปอุดในรูของ basket ทำให้น้ำไม่สามารถไหลผ่านออกไปได้ หรือหากออกได้ก็จะไหลช้ามากๆ เกิดปัญหารสชาติขม ไหม้ เนื่องจาก over extraction
3. Dose&Tamp [25%]
การใช้ปริมาณผงกาแฟที่เหมาะสมกับขนาด basket ให้ได้จุดที่สกัดได้สมบูรณ์ที่สุด ปกติแล้วเขาจะมีขีดเส้นระดับให้ที่แถวๆต่ำกว่าปากบนของ basket ถ้าเรา tamp กาแฟแล้วระดับผงกาแฟหลัง tamp อยู่ไม่สูงกว่าเส้นนี้ ก็จะเอาก้านชงเข้าที่หัวกรุ๊ปได้ แต่ถ้าระดับหลัง tamp ต่ำกว่าเส้นนี้ แสดงว่าเราใส่ผงกาแฟน้อยเกินไป การเกิดแรงดัน back pressure (หรือคล้ายๆกับ แรงเค้น ที่จะดึงเอาความเป็นกาแฟออกมาจากผงกาแฟนั่นแหละครับ) จะน้อยลงเรื่อยๆ คุณภาพของ shot ก็จะน้อยตามลงไป
4. อย่าลาก shot
ส่วนใหญ่แล้ว single shot มักจะสกัดความเป็นกาแฟออกมาได้ส่วนใหญ่ใน 30 ml แรก ส่วน double shot ก็จะสกัดได้เกือบครบถ้วนใน 60 ml แรก น้ำที่สกัดได้หลังจากนั้นมักจะไม่มีอะไรนอกจากความขมๆ เฝื่อนๆ ครับ ดังนั้นหากอยากได้น้ำกาแฟในปริมาณมากกว่านั้น เราเติมน้ำเปล่าเข้าไปแทนเลยอาจจะดีกว่า เพราะกาแฟก็ยังจะได้ความเข้มข้น (strenght) ในระดับที่ต้องการโดยไม่มีความขมเฝื่อน แต่ทั้งนี้ก็แล้วแต่รสนิยมหรือความชอบของเราเองด้วยครับ
----
เขียนไปเขียนมาก็ยาวเลย หวังว่าเพื่อนๆคอเอสเปรสโซทั้งที่เป็นมือเก่าก็ได้ทบทวน มือใหม่ก็ได้ basic กันนะครับ
หากใครมองหาเมล็ดกาแฟเอสเปรสโซคุณภาพดีที่ไว้เนื้อเชื่อใจได้เสมอ ก็สามารถเลือกซื้อของปรีดาได้ทางหน้าร้านหลายช่องทางนะครับ เรายังสนุกกับการคัดการคั่วกันทุกวัน ส่วนตัวผมเองก็ยังรักที่จะดื่ม โก๋เบลนด์ และ Simply Sweet ที่น้องๆร้านโก๋ชงให้เป็นประจำเพราะติดกลิ่นหอมคาราเมลฉ่ำๆ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบครับ
พี่กี้
#Shotดีชีวิตดี